English हिन्दी Indonesia Português Tiếng Việt العربية ไทย
ปี 2021 เป็นปีแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่สำหรับตลาดคริปโตเคอเรนซี บิทคอยน์ทำสถิติสูงสุด เช่นเดียวกันกับเหรียญทางเลือกอื่น ๆ เกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ปี 2022 เริ่มต้นด้วยแนวโน้มขาลงครั้งใหญ่ ตลาดคริปโตขณะนี้อยู่ในช่วงตลาดหมี แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการเข้าสู่ตลาด คุณสามารถเข้าเทรดบิทคอยน์และเงินคริปโตสกุลอื่น ๆ ได้บนแพลตฟอร์ม Olymp Trade
ในปีที่แล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมมากขึ้นถึงขนาดที่บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งและรัฐบาลในประเทศส่วนใหญ่ไม่เพิกเฉยต่อเงินคริปโต แล้วมีอะไรรอเราอยู่ในปีนี้? เทรนด์คริปโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะเป็นอะไร? อ่านเพื่อหาคำตอบกันเลย
โครงการริเริ่มสีเขียวสำหรับคริปโตเคอเรนซี
เมื่อช่วงต้นปี 2021 นายอีลอน มัสก์ ได้ประกาศว่า Tesla จะไม่รองรับคริปโตในการชำระเงิน เนื่องจากการขุดเหรียญบิทคอยน์เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซ CO2 ปริมาณมหาศาล นายบิล เกตส์ เอ่ยถ้อยคำในลักษณะคล้าย ๆ กัน เขาเชื่อว่า บิทคอยน์ใช้กระแสไฟฟ้าต่อธุรกรรมมากกว่าวิธีการอื่น ๆ
อัลกอริทึมฉันทามติการพิสูจน์ด้วยการทำงาน (Proof of Work) ใช้กระแสไฟฟ้าในระดับสูงจริง บิทคอยน์ถือว่ามีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อปีเทียบได้กับประเทศนิวซีแลนด์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม งานวิจัยจาก University of Cambridge ระบุว่า 75% ของกระแสไฟฟ้าที่บิทคอยน์ใช้งานนั้นผลิตจากพลังงานทดแทน โดยมีสัดส่วนมากที่สุดมาจากกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ
[register_olymptrade]
พลังงานไฟฟ้าแบบสีเขียวนี้คิดเป็นประมาณ 40% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด และใช้ในสหรัฐฯ เป็นหลัก สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นหลังจากฐานการขุดเหรียญย้ายออกจากจีน การใช้ถ่านหินลดลง และพลังงานในการประมวลผลปริมาณมากถูกเคลื่อนย้ายไปยังแถบอเมริกาเหนือ
โครงการและเหรียญคาร์บอนเครดิตคาดว่าจะพัฒนาขึ้นอย่างแข็งขันในปีหน้านี้ เราสันนิษฐานว่า ความนิยมในตลาดคาร์บอนเครดิตจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น โครงการและเหรียญเหล่านี้จะช่วยบริษัทที่สนับสนุนโครงการสีเขียวและอำนวยความสะดวกในการให้กับโครงการสีเขียวรอบโลก
ผู้เล่นรอบโลกเพิ่มขึ้น
Tesla ทำให้ตลาดตกตะลึงโดยบริษัทเข้าซื้อบิทคอยน์มูลค่า $1.5 พันล้านเหรียญ PayPal อนุญาตให้คนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ สามารถเทรดและเก็บเงินคริปโตได้ ด้าน Twitter เพิ่มความสามารถในการรับทิปโดยใช้ BTC บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งเริ่มมีแนวโน้มที่จะรองรับคริปโตเคอเรนซีในการชำระเงิน ซื้อเงินคริปโต หรือพัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชนเป็นของตนเอง
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานรัฐบาลอาจสกัดกั้นไม่ให้บริษัทจดทะเบียนซื้อขายเหรียญ กรณีตัวอย่างที่เราจำกันได้ก็คือ ทางการสหรัฐฯ สั่งแบน ICO ของ Telegram รวมถึงการริเริ่มคริปโตเคอเรนซีของ Facebook
[register_olymptrade]
ตลาดค่อนข้างมีแนวโน้มที่จะตอบสนองด้วยความผันผวนต่อการรวมตัวกันของบริษัทขนาดใหญ่ คุณสามารถคาดการณ์ได้อย่างปลอดภัยว่าจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่นอกจาก Tesla อีกหลายแห่งที่จะลงทุนในเงินคริปโต ทุกคนต่างเฝ้ารอให้กองทุน Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติ ซึ่งก็เกิดขึ้นแล้วในฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ดังนั้น โปรดรอดูต่อไป
ระบบการชำระเงินสนับสนุนคริปโตเคอเรนซี
Mastercard ประกาศสนับสนุนคริปโตเคอเรนซีบนเครือข่ายของบริษัทในปี 2021 เมื่อเปิดให้บริการ ผู้ขายจะสามารถรับชำระเงินคริปโตและธนาคารจะแข่งขันกับตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโต การบูรณาการนี้น่าจะเกิดขึ้นในต้นปี 2022
Visa ก็ไม่ได้เพิกเฉยเช่นกัน การดำเนินธุรกรรมด้วยบิทคอยน์และคริปโตเคอเรนซีสกุลอื่น ๆ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์บริษัทอยู่แล้ว บริษัทวางแผนที่จะพัฒนาบริการ ซึ่งจะอนุญาตให้ลูกค้าจากธนาคารดั้งเดิมสามารถซื้อและขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ บริษัทชำระเงินขนาดใหญ่รายนี้มีแนวโน้มจะทำการทดสอบเทคโนโลยีจริง ๆ ในตลาดเกิดใหม่ และจากนั้นจะขยายไปยังตลาดโลกพัฒนาแล้ว แนวโน้มนี้คาดว่าจะช่วยให้คริปโตเคอเรนซีเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้นทั่วโลก
หลายประเทศรองรับบิทคอยน์มากขึ้น
ในปีนี้ เอลซัลวาดอร์ได้รองรับบิทคอยน์เป็นสื่อกลางในการชำระเงินที่ถูกกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนคงไม่เคยคาดคิดเมื่อไม่กี่ปีก่อน รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงท่าทีอันบุกเบิกอย่างแท้จริงเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้อันดับคะแนนความน่าเชื่อถือของประเทศถูกปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ก้าวแรกได้เริ่มขึ้นแล้ว และมีโอกาสที่ประเทศอื่น ๆ อาจเริ่มก้าวตามได้ในปี 2022 นี้
ซีอีโอของ BitMEX กล่าวว่า มีอย่างน้อย 5 ประเทศที่จะรองรับ BTC เป็นเงินตราที่ถูกกฎหมายภายในสิ้นปี 2022 เนื่องด้วยประเด็นที่เกี่ยวกับการส่งเงินและภาวะเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางเตรียมออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง (CBDC)
สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency – CBDC) คือ สกุลเงินทางการของประเทศในรูปแบบเสมือนจริง สกุลเงินนี้จะออกและกำกับโดยธนาคารกลางของประเทศนั้น ๆ เราสามารถเรียกได้ว่า CBDC เป็นการออกมาตอบโต้ต่อคริปโตเคอเรนซีและโดยเฉพาะเหรียญ stablecoins โดยหน่วยงานทางการ
เชื่อกันว่า CBDC จะช่วยกำกับนโยบายทางการเงินของประเทศ และยังเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสามารถควบคุมเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำมากขึ้นและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ทันเวลา อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลก็สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินของผู้ใช้งานปลายทางได้โดยตรง ซึ่งช่วยให้รัฐบาลสามารถติดตามธุรกรรม เก็บภาษี และค่าปรับได้ แนวคิดนี้ขัดแย้งกับโครงสร้างที่ไร้ศูนย์กลางของคริปโตเคอเรนซีโดยสิ้นเชิง
[register_olymptrade]
จีนกำลังชนะศึกในสนาม CBDC โดยจีนเริ่มพัฒนาเงินดิจิทัลในปี 2019 และทดสอบบนตลาดแลกเปลี่ยนระหว่าง e-CNY และเงินหยวนพันธบัตรผ่าน ATMs ในช่วงต้นปี 2021 นอกจากจีนแล้วยังมีสิงคโปร์ ตูนีเซีย เอกวาดอร์ และไนจีเรีย ที่เริ่มโครงการ CBDC เป็นของตนเอง โครงการ CBDC นำร่องของอินเดียมีกำหนดจะเริ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2022 ในขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ประกาศว่ามีความพร้อมทางเทคนิคที่จะเริ่มสกุลเงินดิจิทัล ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น แคนาดา รัสเซีย สวีเดน และเอสโตเนีย ต่างมีบทบาทอย่างแข็งขันในการใช้งานสกุลเงินคริปโตของประเทศ เราคาดว่าจะมีหลายประเทศเพิ่มขึ้นที่จะเดินตามรอยนี้ในปีหน้า
DeFi และ GameFi
ระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง หรือ Decentralized finance หรือที่เรียกกันว่า DeFi เป็นหนึ่งในเทรนด์สกุลเงินคริปโตล่าสุด โครงการ DeFi ใช้งานสัญญาอัจฉริยะ (smart contracts) ในการบริหารความมั่งคั่ง ให้สินเชื่อ ฝากเงินค้ำประกัน ประกันความเสี่ยง และธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ ด้วยคริปโตเคอเรนซี ภายในปลายปี 2021 ปริมาณรวมของเงินหมุนเวียนในแวดวงนี้จะสูงกว่า $1.1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเคยอยู่ที่เพียง $2 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้า
DeFi คาดว่าจะพัฒนาขึ้นหลังจากธนาคารทั่วไปอาจเริ่มบริการนี้ในปี 2022 ดังนั้น ระบบอาจเติบโตขึ้นได้อีกหลายเท่า อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่รวดเร็วเช่นนี้เริ่มดึงดูดความสนใจของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (SEC) แล้ว แรงกดดันจากกลต. อาจชะลอการพัฒนาในวงการ DeFi ได้
GameFi คือจุดที่ DeFi มาบรรจบกับเกม ขณะนี้ผู้ใช้งานสามารถทำรายได้เป็นเงินจริงจากการเล่นเกม ความนิยมใน GameFi เพิ่มสูงขึ้นโดยหลักแล้วมาจากเกม Axie Infinity มูลค่ารวมในตลาดของเกมนี้สูงกว่า $1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และเริ่มมีการพัฒนาระบบนิเวศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นเช่นกัน เกมที่เล่นเพื่อทำรายได้นี้เริ่มได้รับความนิยมมาก และขณะนี้ ในส่วนของ GameFi มีเกมต่าง ๆ แล้วมากกว่า 1,000 เกม
GameFi มีศักยภาพอีกมาก และเราสันนิษฐานได้อย่างสมเหตุสมผลว่า บริษัทสตูดิโอเกมรายใหญ่ต่าง ๆ จะเริ่มเข้าสู่ตลาดนี้ในปี 2022 เพื่อบีบคู่แข่งรายอื่น ๆ
Metaverse
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Metaverses จะเป็นเทรนด์สำคัญในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ทุกคนเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้นหลังจาก นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ได้เปลี่ยนชื่อหรือรีแบรนด์ Facebook เป็น Meta นอกจากท่าทีดังกล่าวแล้ว เขายังวางแผนที่จะว่าจ้างพนักงานอีก 10,000 คน และทำงานในทิศทางนี้ในช่วง 5 – 7 ปีข้างหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้มากแค่ไหน
หลักการของโลก Meta ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร และเป็นสิ่งที่นักเขียนนิยายแนววิทยาศาสตร์อธิบายไว้แล้ว และเคยใช้งานในระบบอวกาศเสมือนจริงอีกด้วย Second Life ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Linden Labs ที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก คือแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ในช่วงความนิยมสูงสุดเมื่อปี 2007 โลกเสมือนจริงแห่งนี้มีผู้ใช้งานประจำเกือบ 900,000 คน
GameFi ได้สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้กับแนวคิดนี้ โครงการ Decentaraland คือ หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของเมตาเวิร์สซึ่งหนุนโดยบล็อกเชน มันคือแพลตฟอร์มสภาวะเสมือนจริงที่ตั้งอยู่บนเครือข่าย Ethereum เป็นการผสมผสานกันระหว่าง Sims, Minecraft และ GTA ซึ่งผู้ใช้งานสามารถท่องเที่ยวไปยังโลกต่าง ๆ สร้าง ซื้อและขายสินค้าของตนเองในรูปแบบ NFT
ความสำเร็จอันน่าทึ่งของ Decentaraland และโครงการที่คล้ายกันอื่น ๆ แน่นอนว่าจะดึงดูดผู้เล่นรายใหญ่จำนวนมหาศาลเข้ามาในแวดวง GameFi ในปีที่จะมาถึงนี้
NFT
Non-fungible tokens (NFTs) หรือเหรียญที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ต่างทำให้ทุกคนต้องตื่นเต้นในปีที่แล้ว ราคาของศิลปะดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ “The First 5000 Days” ของ The Beeples ขายออกไปด้วยราคา $69.34 ล้านดอลลาร์ และพลอตที่ดินเสมือนจริงในเกม Axie Infinity ขายออกไปเป็นเงิน $2.5 ล้านล้านดอลลาร์ บรรดาศิลปิน นักดนตรี สโมสรฟุตบอล และผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายต่างทำกำไรมหาศาลจากการขาย NFTs ของพวกเขา
ปริมาณการซื้อขาย NFT ข้ามหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สามของปี 2021 ซึ่งสูงขึ้นถึงเจ็ดเท่า นักวิเคราะห์ Morgan Stanley คาดการณ์ว่าตลาด NFT จะเติบโตขึ้นเป็นสามแสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งตลาด NFT ระดับหรูจะพุ่งขึ้นเป็น $5.6 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม NFTs ยังสามารถใช้งานในด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากศิลปะดิจิทัลและการสะสม เนื่องจากทุกคนสามารถยืนยันความเป็นเจ้าของ NFTs จึงสามารถกลายเป็นความเชื่อมโยงระหว่างสภาวะเสมือนจริงและความเป็นจริง เราอาจสันนิษฐานได้ว่า บางคนอาจเริ่มใช้งาน NFT ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ สินค้า และบริการต่าง ๆ ขั้นตอนการพัฒนาเหรียญสำหรับซื้อสินทรัพย์จริงค่อย ๆ พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2017 แต่ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยี NFT อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโครงการนวัตกรรมดังกล่าว
บทสรุป
เทรนด์ที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้วมีแนวโน้มจะพัฒนาอย่างแข็งขันในปีที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตาม เราควรตระหนักด้วยว่า เทรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในแวดวงสกุลเงินคริปโตและตัวชี้วัดตลาดโดยรวมคือมูลค่าของ BTC ในตอนนี้ ตลาดอยู่ในช่วงขาลงในปี 2022 และราคาบิทคอยน์ร่วงลง ซึ่งนำไปสู่แนวโน้มขาลงในคริปโตเคอเรนซีทั้งหมด
ในขณะที่บิทคอยน์ขยับลง มันสมเหตุสมผลที่จะหยุดพักและมองหาพื้นที่ที่ราคาจะเติบโตเร็วขึ้นหลายเท่าเมื่อตลาดกลับทิศทางในที่สุด อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวที่จะอยู่รอดได้ในช่วง “ฤดูหนาวคริปโต” นี้จะสร้างรายได้ที่ดีที่สุดให้กับนักลงทุนที่ชาญฉลาด
[register_olymptrade_form]