ไม่ว่าคุณจะลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์อยู่แล้วกับ Olymp Trade หรือคุณกำลังจะเริ่มต้น ยังมีหลายสิ่งที่คุณควรพิจารณาและทำความเข้าใจเพื่อประสบความสำเร็จมากขึ้นในการเทรด แม้ว่าการเทรดฟอเร็กซ์กับคู่สกุลเงินอาจดูเหมือนว่ามีความซับซ้อนสูง และอาจจริงอยู่บ้าง แต่นักเทรดสามารถใช้วิธีการต่าง ๆ ในการพัฒนาผลลัพธ์การเทรดของตนเอง
แต่ละปัจจัยที่ส่งผลต่อการเทรดสกุลเงินอาจมีความซับซ้อนสูงมาก แต่ไม่ใช่ว่าความซับซ้อนทั้งหมดนี้จำเป็นจะต้องสำรวจและศึกษากันอย่างลึกซึ้ง แต่ความรู้ความเข้าใจที่ดีในภาพรวมตลาดเงินตราต่างประเทศก็ย่อมช่วยให้คุณสามารถทำการตัดสินใจในการเทรดที่ดียิ่งขึ้น
ด้านล่างนี้คือสิ่งที่นักเทรดควรพิจารณาเมื่อทำการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ อธิบายด้วยคำศัพท์ง่าย ๆ เพื่อช่วยเหลือนักลงทุนธรรมดาทั่วไป
ลงทะเบียนบัญชี Olymp Trade และรับ $10,000 รับ $10,000 สำหรับมือใหม่
อัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อค่าเงินอย่างไร
เกือบทุกประเทศมีอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดย “ธนาคารกลาง” ในประเทศนั้น ๆ ในสหรัฐฯ อำนาจนี้เป็นของธนาคารเฟดสหรัฐฯ และชื่อสถาบันแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกันไป แต่โดยหลักการแล้วมีอำนาจหน้าที่เดียวกัน คือ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยของประเทศ
อัตราดอกเบี้ยนี้ไม่ใช่อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารใช้กับลูกค้าในการให้สินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย รถยนต์ หรือเริ่ม/ต่อยอดธุรกิจใด ๆ แต่นี่คืออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารฯ คิดกับธนาคารอื่น ๆ สำหรับสินเชื่อที่กู้ยืมระหว่างกันและกัน จริง ๆ แล้ว ธนาคารนั้นมีการกู้ยืมเงินระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของระเบียบกฎหมาย แต่เรื่องนี้คงต้องไว้คราวหลัง
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นช่วยลดระดับเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะช่วยเพิ่มกิจกรรมทางธุรกิจ การประกาศข่าวใด ๆ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยมักจะส่งผลต่อตลาดฟอเร็กซ์และตลาดหุ้น และการเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลต่อมูลค่าของค่าเงินประเทศโดยตรง คุณสามารถอ่านข่าวสารอัปเดตได้ทาง Insights ของ Olymp Trade ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพล็ตฟอร์มที่มีหน้าตาตามรูปด้านล่าง แต่การอ่านข่าวจากหลายแหล่งที่มาประกอบกันจะดีที่สุด
สภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมส่งผลต่อค่าเงินอย่างไร
ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจประเทศจะส่งผลอย่างยิ่งต่อมูลค่าของค่าเงินประเทศหนึ่งเทียบกับค่าเงินสกุลอื่น ๆ ประเทศที่มีเศรษฐกิจมั่นคงหรือกำลังเติบโตจะมีขีดความสามารถในการซื้อสินค้าและบริการ และอัดฉีดเงินเข้าระบบได้มากกว่า จึงส่งผลต่อมูลค่าของค่าเงินประเทศนั้น ๆ
รายงานรายเดือน ไตรมาส และรายปียังเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังมีผลการดำเนินงานอย่างไร ส่วนสำคัญที่สุดของรายงานเหล่านี้ คือ ดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product – GDP) และนักเทรดก็จะได้รับคำแนะนำให้สนใจกับข่าวใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของ GDP ในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ จีน และอียู เป็นต้น
นอกจากนี้ ตัวเลขอัตราว่างงาน ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และรายงานระดับเงินเฟ้อก็สามารถส่งผลต่อตลาดฟอเร็กซ์ได้โดยตรงเช่นกัน
ลงทะเบียนบัญชี Olymp Trade และรับ $10,000 รับ $10,000 สำหรับมือใหม่
ตระหนักถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองและความขัดแย้งทางการทหาร
เหตุการณ์การลุกฮือทางการเมืองและการทหารในประเทศหรือภูมิภาคใด ๆ อาจส่งผลกระทบสำคัญต่อประเทศต่าง ๆ และต่อภูมิภาคที่อาจไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงใด ๆ กับความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม เราอาศัยอยู่ในเศรษฐกิจโลกร่วมกัน และโลกของเราก็มีขนาดเล็กลงและมีการเชื่อมโยงซึ่งกันและกันมากขึ้น
จับตาดูข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในระดับสูงและความขัดแย้งทางการทหารใด ๆ ที่กำลังคุกรุ่น และคอยสอบถามและหาคำตอบว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจส่งผลต่อการเทรดในโลกอย่างไร
เช่น ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศเล็ก ๆ อย่างเมียนมาอาจส่งผลต่อจีน เนื่องจากเมียนมาเป็นประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติให้กับจีน ต้นทุนค่าพลังงานใด ๆ ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ผู้ผลิตในจีนต้องปรับราคาตลาดขึ้น และลดกำไรสำหรับคนอื่น คุณคงพอนึกออกว่าแม้แต่คลื่นลูกเล็ก ๆ ก็สามารถส่งผลเป็นคลื่นกระทบเศรษฐกิจได้
ผสมผสานการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค
นักเทรดมือใหม่บางคนอาจถามว่า “การวิเคราะห์ตลาดคืออะไร” และ “อะไรคือความแตกต่างระหว่างการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค” แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ซับซ้อนมากเกินไปหรือยากเกินกว่าที่จะเข้าใจเมื่อพอมีเวลาและได้ฝึกฝน และทั้งสองแนวทางนี้ใช้งานในการวิเคราะห์ตลาดค่าเงินโดยรวมไป (ฟอเร็กซ์)
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานตั้งอยู่บนพื้นฐานของข่าวเศรษฐกิจและการเมืองตามที่อธิบายไว้ในสามข้อข้างต้น ในขณะที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคต้องอาศัยการประเมินกราฟที่เทรดจริงสำหรับคู่สกุลเงิน
กลยุทธ์ที่ดีคือการหาคู่สกุลเงินหนึ่งหรือไม่กี่คู่ และทำความคุ้นเคยกับคู่สกุลเงินเหล่านั้น คุณจะสามารถเห็นรูปแบบพฤติกรรมของราคาที่เกิดขึ้นจากข่าวเศรษฐกิจ ตลอดจนได้ทราบว่าคู่สกุลเงินเหล่านี้สร้างเทรนด์และจะกลับทิศทางเทรนด์อย่างไร
ตัวอย่างเช่น คู่ EUR/USD คือ สินทรัพย์ฟอเร็กซ์ที่มีการเทรดมากที่สุด โดยจะมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ และยุโรป เช่น การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ย อัตราว่างงาน และ GDP อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่า นับตั้งแต่ปี 2015 อัตราแลกเปลี่ยนมักจะซื้อขายเหนือระดับอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1.1 เสมอมา (1 ยูโรเท่ากับ 1.1 USD)
นี่คือกราฟในกรอบ 1 เดือนของคู่นี้ โดยมีเส้นแนวนอนสีชมพูแสดงให้เห็นว่าระดับแนวรับที่ 1.1 เป็นแนวรับขนาดใหญ่แค่ไหน การทำความเข้าใจพฤติกรรมในอดีตของคู่นี้จะเป็นประโยชน์หาก/เมื่อราคาขยับเข้าใกล้ระดับ 1.1 ในอนาคต โดยเฉพาะการทำการตัดสินใจในการเทรดจากข่าว
คุณสามารถพัฒนาทักษะของคุณเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดบนแพล็ตฟอร์มโดยใช้ประโยชน์จากสื่อการสอนมากมาย และคุณจะทำการตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าจะควรเข้าและออกตำแหน่งในตลาดในเวลาใด นอกจากนี้ หากนักเทรดใช้กลยุทธ์การเทรดหลายตัว ซึ่งสามารถศึกษาได้บนแพล็ตฟอร์ม พวกเขาจะสามารถทำกำไรได้สูงสุด
ก้าวเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยใช้หลักการสามข้อเหล่านี้
นักเทรดไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาด้านการเงินหรือเศรษฐศาสตร์เพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดฟอเร็กซ์และเข้าใจวิธีการวิเคราะห์ตลาด ข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นมีให้บริการฟรีและมีรายละเอียดมากกว่าที่เราอธิบายข้างต้นนี้
การนำไอเดียมาพูดคุยที่นี่ในขณะที่เทรดไปด้วยจะช่วยพัฒนาพฤติกรรมการเทรดของคุณ เพราะความตระหนักรู้ของคุณจะส่งผลต่อการวิเคราะห์ตลาดและกระบวนการตัดสินใจของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณควรค่อย ๆ ใช้เวลาไปกับการขัดเกลาทักษะการวิเคราะห์ของคุณและนำมาใช้เมื่อคุณเจอข้อมูลในข่าวหรือที่ไหนก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการประสบความสำเร็จในการเทรดของคุณอย่างแน่นอน
อย่าลืมว่า หากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยให้คุณมีธุรกรรมการเทรดที่มีกำไรหนึ่งธุรกรรม $100 ต่อสัปดาห์ คุณก็จะทำกำไรเพิ่มถึง $5,000 ดอลลาร์ ต่อปี รางวัลนี้ย่อมคุ้มค่าความพยายามอย่างแน่นอน
